เผย “เอกสารลับ-ลับที่สุด-ลับสุดยอด” (Very Secret, Top Secret) ของ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NARA)
ที่จะทำให้การอธิบายประวัติศาสตร์ภายในของไทยสมัยสงครามโลกฯ เปลี่ยนไป
เอกสารลับลับที่สุดของญี่ปุ่น ช่วยปิดจุดอ่อนวิจัยทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยสงครามโลก ฯ
1) กรณีการเคลื่อนไหวของกองทัพไทย
เข้าสู่บริเวณตอนเหนือประชิดชายแดนของประเทศจีน และข้อสงสัยการติดต่ออย่างลับๆ
ระหว่างทหารไทยกับฝ่ายจีน
2) กรณีจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีแต่ไม่ยอมออก และ
3) กรณีฝ่ายญี่ปุ่นได้พยายามชักชวนให้จอมพล ป.
พิบูลสงคราม เดินทางไปญี่ปุ่นหลายครั้ง แต่จอมพล ป. ก็บ่ายเบี่ยงเสมอ
หลักฐานข้อค้นพบเหล่านี้อยู่ในหนังสือเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว
“ข้อมูลใหม่” ที่มีคุณค่า มีความสำคัญ และจะ
มีผลต่อการรื้อถอนคำอธิบายประวัติศาสตร์ไทยสมัยสงครามโลกฯโดยเฉพาะเรื่องขบวนการ
เสรีไทย จาก “ตำนานเดิม” ไปสู่แนวทางใหม่อย่างมีน้ำหนักยิ่งขึ้น
หนังสือภาพ 4 สี
จำนวน 276 หน้า
สำนักพิมพ์ มูลนิธิสถาบันสร้างสรรค์ปัญญาสาธารณะ
สนับสนุนการพิมพ์โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ วช.
ส่วนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ "คำนิยม" ในพลเอกหญิง ศ.เกียรติคุณ ดร.
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
"...ประเทศสหรัฐอเมริกามีเอกสารมากมายที่เอามาใช้เป็นประโยชน์สหรัฐอเมริกา อยู่ไกล โรงเรียนนายร้อย จปร. ไม่มีเงินพอที่จะส่งคนไปคอยดูว่า เอกสารฉบับไหนพ้นจาก การเป็นเอกสารลับ แล้วทำสำเนากลับมาวิเคราะห์เขียนบทความได้รวดเร็ว แต่สิ่งที่ช่วยได้ คือความรู้การรู้จักสังเกต และสติปัญญา ที่อาจารย์ของเราไม่ได้แพ้ผู้อื่น และได้นำมาเขียน ตำราให้ผู้อื่นได้ศึกษากัน เช่น พันเอกดร.สรศักดิ์งามขจรกุลกิจผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้เป็น ครูสอนประวัติศาสตร์มาหลายปีเป็นอาจารย์ที่มีประสบการณ์ดียิ่งท่านหนึ่ง
ข้าพเจ้าคิดว่าถึงระยะนี้น่าจะได้ไปสำรวจเอกสารอีก เนื่องจากเมื่อหลายปีมา แล้วเอกสารมักจะเกี่ยวกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสมัยสงครามเย็น แต่เอกสารที่เปิด ในระยะนี้น่าจะเป็นสมัยหลังสงครามเย็นที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่มี เงื่อนไขต่างจากเหตุการณ์ในยุคก่อน และมีนักวิชาการอื่นก็มาช่วยเราคัดเลือกเอกสารจาก หอจดหมายเหตุอีกหลายแห่งด้วย ถึงแม้ว่ามีข้อมูลเดิม แต่มีเทคโนโลยีใหม่ก็ทำให้ได้ข้อมูลใหม่ขึ้น เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ มีการวิจัยแผ่นหินสลักสมัยสำริด พบในการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อค.ศ.1900แต่ไม่มีใคร สนใจเมื่อปีนี้เพิ่งมีการวิจัยใช้เทคนิค HighResolution3D Photogrammetryจึงได้ทราบ ว่าเป็นแผนที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
หนังสือ จากแฟ้มเอกสารลับที่สุด: เผย “ข้อมูลใหม่” ทางประวัติศาสตร์ไทยสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NARA) จึงเป็นหนังสือที่ ให้ความคิดและข้อคิดที่ดีสำหรับผู้อ่าน จึงขอแสดงความยินดีที่หนังสือนี้ได้พิมพ์ออกมาเป็น ประโยชน์อย่างยิ่ง....."